โรคภูมิแพ้ผิวหนัง Green Mulon กรีนมูลอน ดูแลอาการภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้ผิวหนัง

โรคภูมิแพ้ผิวหนัง หรือโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้

โรคภูมิแพ้ผิวหนัง หรือโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (Atopic dermatitis) เป็นโรคผิวหนังอักเสบที่เป็น ๆ หาย ๆ พบบ่อยในเด็ก ผู้ที่ป่วยเป็นโรคนี้จะมีแนวโน้มทางพันธุกรรมอยู่เป็นพื้นฐาน มักเกิดร่วมกับโรคภูมิแพ้ระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด แพ้อากาศ โดยเฉพาะเวลาที่อากาศรอบตัวเปลี่ยนแปลง เช่น ตอนเช้ามืด คนในครอบครัวผู้ป่วยมักมีประวัติโรคภูมิแพ้ของเยื่อบุต่าง ๆ ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ไม่ได้เกิดจากการแพ้อาหารหรือสารเคมีอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ แต่เกิดจากผิวหนังของผู้ป่วยไว (sensitive) ต่อสภาพแวดล้อมรอบตัว ทั้งสภาพร้อน เย็น แห้ง ชื้น เชื้อโรคและสารเคมีที่ระคายผิวหนัง ทั้งนี้เพราะความผิดปกติซ่อนเร้นอยู่ในยีนของครอบครัวผู้ป่วยโดยไม่เกิดอาการก็ได้ ซึ่งผู้ป่วยแต่ละคนจะมีลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นจุดอ่อน  หรือผิดปกติที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากบิดามารดาไม่เหมือนกัน ความบกพร่องที่ได้มาจากบิดามารดานี้จะมีความแตกต่างกัน มีความผิดปกติมากบ้างหรือน้อยบ้างไม่เท่ากัน ทำให้ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้มีอาการและอาการแสดงปรากฎออกมาไม่เหมือนกัน  และมีความรุนแรงแตกต่างกันอย่างมาก ตั้งแต่เป็นน้อย ๆ เป็นตลอดเวลา เป็น ๆ หาย ๆ เป็นตั้งแต่เด็ก ๆ เริ่มมีอาการเมื่อเข้าช่วงวัยรุ่น บางรายมีอาการเมื่อเป็นผู้ใหญ่ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ไม่มีประวัติภูมิแพ้ในครอบครัวเลยก็เป็นโรคนี้ได้เช่นเดียวกัน

ลักษณะอาการสำคัญที่พบในผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนัง หรือโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ คือ

  • ผิวหนังมีน้ำมันในชั้นหนังกำพร้า (Stratum corneum) น้อยกว่าคนปกติทั่วๆไป
  • มีอาการคันที่ผิวหนังได้ง่ายกว่าปกติ และมักเป็นมากตอนกลางคืน
  • เกิดผื่นแดงที่ผิวหนังง่าย  ผื่นแดงคันตามข้อพับ เช่น ศอก เข่า ต้นคอ ข้อพับแขน ข้อพับขา รักแร้ ขาหนีบ ร่องก้น ผื่นหรือตุ่มคันตามแขน ขา 2 ข้าง แต่บางรายก็เป็นข้างเดียว
  • ตุ่มนูนบริเวณรูขุมขนส่วนแขน ขา
  • ผื่นแดงลอกเป็นสะเก็ดที่นิ้วมือ นิ้วเท้า ฝ่ามือ หรือ ฝ่าเท้า
  • ริมฝีปากแดง แห้งลอกเป็นขุย เป็น ๆหาย ๆ
  • หากเป็นเรื้อรังผิวหนังจะหนาและมีรอยคล้ำ
  • คันมากขึ้นเมื่อเหงื่อออก
  • ยิ่งเกา ยิ่งคัน

อาการคัน เป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยเดือดร้อน ทำให้นอนไม่หลับ หงุดหงิดจากการเกาหรือแกะผิวหนังอย่างมาก ทำให้อาการผิวหนังอักเสบกำเริบมากขึ้น มีน้ำเหลืองออกมาที่ผิวหนัง ยิ่งทำให้อาการคันกระจายไปทั่วตัวที่ชาวบ้านเรียกว่า “น้ำเหลืองเสีย”

ในเด็กมักพบบริเวณใบหน้าและศีรษะ เด็กบางคนเมื่ออายุมากขึ้นอาการจะดีขึ้น เหลือเพียงผิวแห้ง คนที่เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง มักพบว่าแพ้แมลง ยุง มด จะทำให้มีอาการคันและเป็นผื่นได้ง่าย มีอาการนานกว่าคนทั่วไป และนอกจากนี้อาจมีอาการแพ้จากการที่ผิวหนังสัมผัสกับสารบางชนิดได้ง่าย เช่น แพ้ครีมกันแดด ยาย้อมผม โลหะ เป็นต้น

โดยอาการอื่น ๆ ที่ผู้ป่วยโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้อาจมีร่วมด้วยได้แก่  อาการน้ำมูกไหล ไอ จามเป็นๆ หายๆ หรือมีอาการหอบหืดร่วมด้วย

การป้องกันโรคภูมิแพ้ผิวหนัง

  • ทำความสะอาดร่างกายและล้างมืออยู่เสมอ
  • ใช้สบู่อ่อน ๆ ไม่มีน้ำหอม ไม่มีสารกันเสีย และอ่อนโยนต่อผิว
  • ทาโลชั่นทุกครั้งหลังอาบน้ำเพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
  • หลีกเลี่ยงสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้โรคกำเริบมากขึ้น เช่น ไม่อยู่ในห้องปรับอากาศที่เย็นจัด ไม่อาบน้ำที่มีอุณหภูมิเย็นหรือร้อนจัด และควรหลีกเลี่ยงภาวะที่ทำให้เหงื่อออกมาก
  • หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้าที่รัดมาก เนื้อหยาบหนา หรือผ้าขนสัตว์ ซึ่งทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิว
  • หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่นละออง แมลง และยุงชุกชุม
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกาย เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย

อะไรบ้างที่ทำให้ผื่นนี้กำเริบมากขึ้น

  1. สภาวะแวดล้อม เช่น สภาวะที่มีละอองเกสร ขนสัตว์ ไรฝุ่น สิ่งเหล่านี้ทำให้ผื่นมีอาการคันมากขึ้น
  2. เชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา อาจแทรกซ้อนทำให้เกิดการติดเชื้อบนผิวหนังของผู้ป่วย ผิวหนังที่อักเสบอยู่เดิมจะกำเริบมากขึ้น กรณีที่สงสัยว่ามีการติดเชื้อแทรกซ้อน ควรปรึกษาแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วย
  3. ฤดูกาล ผื่นผิวหนังอักเสบมักมีอาการมากขึ้นในช่วงฤดูหนาว เพราะความชื้นในอากาศต่ำ อากาศแห้ง เย็น ทำให้ผิวหนังผู้ป่วยคันและเป็นผื่น ผู้ป่วยบางรายจะมีอาการมากขึ้นในช่วงฤดูร้อน เพราะอากาศที่ร้อนทำให้เหงื่อออกมาก เกิดอาการคันและเกิดผื่นเช่นเดียวกับในฤดูหนาว
  4. เสื้อผ้า เครื่องนุ่มห่ม และเครื่องประดับที่มีขน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าที่ทำจากขนสัตว์ จะทำให้เกิดการคันเพิ่มเติม
  5. สบู่ ครีม โลชั่น และผงซักฟอกที่ใช้เป็นประจำ สารเคมีเหล่านี้มีฤทธิ์ละลายไขมัน หรือ/และอาจมีส่วนประกอบที่ก่ออาการระคายเคืองแก่ผิวหนังทำให้เกิดอาการคัน และเป็นผื่นผิวหนังอักเสบได้ง่าย
  6. อาหาร ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ประมาณ 10% พบว่าอาหารบางชนิดเป็นตัวกระตุ้นให้ผื่นแย่ลง มักพบในผู้ป่วยเด็ก เช่น นม ไข่ ถั่วเหลือง เนื้อสัตว์บางประเภท
  7. จิตใจที่วิตกกังวล ความเครียดก็สามารถทำให้โรคกำเริบได้

การวินิจฉัยโรคภูมิแพ้ผิวหนัง

แพทย์เฉพาะทางวินิจฉัยจากการซักประวัติอาการทางผิวหนัง ประวัติครอบครัว การตรวจร่างกาย และการตรวจ Patch Test เพื่อตรวจหาชนิดของสารเคมีหรือโลหะที่แพ้ โดยนำสารต่าง ๆ ที่คาดว่าจะแพ้ใส่ลงใน Finn Chamber แปะไว้ที่หลัง 3 วัน แล้วเปิดดูปฏิกิริยาของคนไข้กับสารเคมีหรือโลหะเหล่านั้น

การวินิจฉัยโรคนอกจากจะอาศัยประวัติอาการและอาการแสดงดังกล่าวมาแล้ว บางครั้งยังต้องอาศัยการถามประวัติในครอบครัวผู้ป่วยซึ่งมักพบว่า พี่น้อง บิดามารดา น้า อา ลุง ปู่ ย่า ตา หรือยายมีอาการโรคภูมิแพ้ชนิดใดชนิดหนึ่งร่วมอยู่ด้วย

เมื่อวินิจฉัยโรคได้แล้วแพทย์จะประเมินความรุนแรงของโรคแล้วจึงให้การดูแลรักษาตามลำดับดังนี้

อธิบายเรื่องโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ให้ผู้ป่วยและญาติ เพื่อให้ทราบว่า จุดอ่อนหรือความบกพร่องของผิวหนังเป็นลักษณะทางพันธุกรรมจะอยู่กับผู้ป่วยตลอดไป แต่ร่างกายของผู้ป่วยสามารถปรับตัวได้โดยการให้ผู้ป่วยออกกำลังกาย รักษาสุขภาพให้แข็งแรง หมั่นทาโลชั่นบำรุงผิวหนังอยู่เสมอ ๆ ตามสภาพอากาศ ไม่อาบน้ำอุ่นนาน ๆ เพราะน้ำอุ่นจะชะล้างไขมันที่ผิวหนังออกไป แพทย์สามารถควบคุมโรคได้ในช่วงที่ผิวหนังอักเสบ แต่การดูแลอาการต่าง ๆ ของโรคในระยะยาวต้องอาศัยผู้ป่วยและญาติที่ใกล้ชิดช่วยควบคุมและดูแลปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่าง ๆ ที่จะทำให้โรคสงบหรือหายไปได้ในระยะยาว

แพทย์จะควบคุมอาการคันด้วย ยาแก้คัน ยาต้านฮีสตามีน (Anti-histamine) ต้องรับประทานยานี้ติดต่อกัน จนไม่มีอาการคันติดต่อกัน 7 วันจึงหยุดยาแก้คันได้ อาการคันอาจไม่หายไปหมดจากการรับประทานยา ให้ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบหรือใช้ครีมเพิ่มความชุ่มชื้นชโลมผิวหนังจะช่วยลดอาการคันได้

ผิวหนังที่อักเสบแดงหรือเป็นขุยลอกให้ใช้ครีมสเตียรอยด์ความแรงระดับกลาง เช่น Triamcinolone acetonide 0.1% cream, Betamethasone 17-valerate cream ทาวันละ 2 ครั้งติดต่อกันนาน 7-14 วัน ถ้าผื่นผิวหนังอักเสบเป็นมากกระจายทั่วตัวหรือการอักเสบเป็นรุนแรงจนมีน้ำเหลืองออกมาอยู่บนผื่นผิวหนัง ในกรณีเช่นนี้ จำเป็นต้องใช้ยารับประทานสเตียรอยด์และใช้น้ำเกลือความเข้มข้น 0.9 % เช็ดน้ำเหลือง อย่าปล่อยให้น้ำเหลืองเยิ้มอยู่ที่ผิวหนัง เพราะจะทำให้เกิดอาการคันและตุ่มแดงกระจายทั่วตัวที่เรียกว่า “น้ำเหลืองเสีย”

Credit : bangkokhospital, phyathai.com, siriraj online

กรีนมูลอน Green Mulon บรรเทอาการภูมิแพ้ โรคภูมิแพ้ผิวหนัง

กรีนมูลอน Green Mulon ผลิตภัณฑ์สมุนไพรเสริมอาหาร สมุนไพรสารสกัดจากชาเขียว และสารสกัดเคอร์คูมินอยด์ ดูแลอาการภูมิแพ้ ช่วยลดการหลั่งสาร Immunoglobulin ที่เป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ เสริมสร้างภูมิต้านทาน ช่วยทำให้อาการภูมิแพ้ดีขึ้น สำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้ และยังช่วยยับยั้งการหลั่งสารฮีสตามินที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้

cci official